วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

วิธี Activate เครื่องที่เปิดฟังชั่น Activation Lock ที่มาจาก iOS 7

หลังจากที่เว็บ drama-addict.com นำบทควาทจากเว็บ Macthai ใน หัวข้อเร่ือง รู้จักกับ Activation Lock ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 7 หายนะสำหรับผู้ลงแอพร้านตู้ ซึ่งก็ทำให้หลายๆท่านได้รู้จักกันไปแล้วว่า Activation Lock คืออะไร มีดราม่าอะไร และ JD คือใคร? 

บทความนี้เราไม่ได้จะตามหาว่า JD คือใคร แอพตัวละหมื่นขึ้นมีอะไรบ้าง ^^a แต่จะกล่าวถึง วิธีเปิดเครื่องที่ติด Activation Lock ครับ

ส่วนผู้ทีี่ต้องการทราบว่า iOS 7 มีอะไรมาใหม่บ้าง? << คลิก
Update iOS 7 ตัวเต็ม 
ฟังชั่นของ Activation Lock ถูกรวมเข้ากับ Find My iPhone เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
Update iOS7 Beta2 <<< สามารถเปิดปิดระบบ Activation Lock ได้แล้วนะครับ





หลังจากที่เครื่อง iOS 7 เปิดใช้งาน Activation Lock แล้ว

1.  เมื่อ เปิด Activation Lock ใน Setting --> iCloud --> Find my iPhone แล้ว ถ้าจะปิด ต้องใส่รหัส Apple ID นั้นๆ   ถึงจะปิดได้


2. ถ้า ไม่ปิด Activation Lock ในเครื่อง iOS 7 แล้วจะ Restore  จะพบปัญหาตามนี้


 2.1   Erase all Content จาก Setting --> General  -->  Reset      หรือ  Remote Wipe จาก icloud.com
  สามารถล้างเครื่องได้ แต่จะ activate เครื่องเข้าใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะ activate ผ่าน WiFi, 3G หรือ iTunes ใน computer ก็ตาม จนกว่าจะใส่ Apple ID และ รหัส ที่เปิดใช้งาน Find my iPhone ของเครื่องนั้นได้ถูกต้อง (ถ้าจำอะไรไม่ได้เลย ก็จบ)   



 2.2  Restore ผ่าน iTunes
    2.2.1 Restore ด้วยการ Click ปกติ หรือ  กด option ( shift ) แล้ว restore
   ไม่สามารถทำได้ โปรแกรม iTunes จะฟ้องว่าให้ไปปิด Activation Lock ในเครื่องก่อน ซึ่งต้องใช้รหัส Apple ID ปิดอยู่ดี
    2.2.3 DFU Restore
    สามารถล้างเครื่องได้ แต่จะ activate เครื่องเข้าใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะ activate ผ่าน WiFi, 3G หรือ iTunes ใน computer ก็ตาม จนกว่าจะใส่ Apple ID และ รหัส ที่เปิดใช้งาน Activation Lock ของเครื่องนั้นได้ถูกต้อง    
    และถึงจะ Downgrade ลงมา 6.1.3 (4)    ก็ติด Activate ตามที่เขียนไปเช่นกัน   


สรุป 
ทำอะไรไม่ได้    หากเครื่องนั้นๆ ถูกรายงานว่าหายจาก icloud.com   เจ้าของจริงจะใส่เบอร์ติดต่อเอาไว้     เบอร์จะปรากฎบนหน้าจอเสมอเวลาเชื่อต่อด้วยสาย USB เข้ากับ iTunes  คุณจะโทรแจ้งหรือเปล่าก็แล้วแต่ขอบเขตของแต่ละท่านครับ

กรณีเครื่องมือสองก็เช่นกันเราทำอะไรไม่ได้ หากจะแนะนำก่อนซื้อ ควรจะ Erase all content ก่อนจ่ายเงินให้ผู้ขาย  เพื่อตรวจสอบว่าติด Activation Lock หรือไม่ครับ

ส่วนดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าหากว่าร้านรับลงแอพ แอบใส่ Apple iD เข้าไปใน iCloud แล้วเปิด ฟัง ชั่น Activation Lock ทีนี้พอมีอัพเดท iOS 7 ร้านที่คิดไม่ซื่อสามารถสั่งกด Lock เครื่องได้เลย และอ้างว่าต้องอัพเดทถึงจะใช้ได้ โดยคิดค่าบริการ และอะไรจะเกิดขึ้น

หลังจากที่ได้อ่านดราม่าและบทความนี้ไปแล้วผมว่า เรามาสมัคร Apple iD กันเถอะ ^^a

FREE FREE FREE ไม่ต้องเสียเงินครับ
วิธีสมัคร Apple iD @ iCloud ด้วย iPhone,iPod และ iPad (แนะนำ)
วิธีสมัคร Apple ID Free TH Store ด้วย iPhone,iPad,iPod (ใช้เมลเดิมที่มีอยู่ได้เลย)
วิธีสมัคร Apple ID Free US Store ด้วย iPhone,iPad,iPod (สามารถแก้ปัญหาได้เอง)

รื่องควรรู้: วิธีลบข้อมูลบน iPhone, iPad และจัดการกับ Apple ID ก่อนขายเครื่องมือสอง

activation-lock-test
การขาย iPhone, iPad มือสองให้เพื่อน, คนรู้จัก หรือร้านตู้มือถือ หลายคนมีความกังวลว่าเราได้ลบข้อมูลหมดไหม ทั้งรุปภาพ, วิดีโอ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ใน Apple ID นอกจากนี้ระบบใหม่บน iOS 7 ทำให้การขายต่อเครื่องยากขึ้นไปอีกด้วย Activation Lock
พอดีมีคุณ @phongjak แฟนเว็บ MacThai ผู้ใจดีได้ทวีตข้อความมาบอกผมว่าน่าจะเขียนบทความเรื่องนี้ด้วยนะ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ผมก็เลยเห็นตามนั้นครับ โดยในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ว่าจะดูอย่างไรว่าอุปกรณ์ iOS ของท่านนั้นหลุดจากวงจร Apple ID ของผู้ใช้รายเก่าไปเรียบร้อยก่อนจะมาถึงผู้ใช้มือใหม่ครับ

ตัด Activation Lock ออก

ถ้าใครยังจำกันได้ MacThai เคยเขียนบทความถึงเรื่อง Activation Lock บน iOS 7 ไปแล้วว่ามันร้ายแรงขนาดไหน (อ่านเพิ่ม: ดราม่า) ซึ่งคราวนี้ก็จะมาดูกันว่า ฝั่งผู้ขายที่จะขายเครื่อง ก่อนจะปล่อยเครื่องออกไปเราต้องทำอะไรบ้าง และฝ่ายผู้ซื้อเครื่องจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องนั้นปราศจาก การเชื่อมต่อกับ Apple ID ของผู้ขายอย่างสมบูรณ์
ios-7-activation-lock-turn-on
การตัด Activation Lock ออกจากเครื่องนั้นง่ายนิดเดียว เพียงเข้าไปที่ Settings -> iCloud และ Delete Account ของ iCloud เจ้าของคนเก่าออก ถ้าไม่ตัด Find My iPhone ออก ตัวเครื่องจะไม่สามารถ Restore ได้ หรือถ้า Restore ได้ผ่าน DFU Mode จะติดหน้าต่างด้านบน ถ้าไม่ใส่ Apple ID และรหัสผ่านที่ถูกต้องก็ไม่สามารถใช้เครื่องได้

ตัดการเชื่อมต่อ iTunes in the Cloud

remove-itunes-in-the-cloud-2
เปิด iTunes ดูที่แถบ Quick Links (ลิงก์ลัด) ทางด้านขวา เลือก Account (บัญชี)
remove-itunes-in-the-cloud-1
ดูส่วน iTunes in the Cloud คลิก Manage Devices (จัดการอุปกรณ์)
remove-itunes-in-the-cloud
หลังจากนั้นก็ลบอุปกรณ์ที่เราจะขายออกไปซะ แค่นี้ก็จบครับ เรียบร้อย หมดพันธะกันแล้ว
การตัดอุปกรณ์ออกจากหน้านี้ถือว่าสำคัญ เพราะ Apple ID สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องได้สูงสุด 10 เครื่องเท่านั้น และถึงแม้ว่าผู้ขายจะลบเครื่องออกจาก Apple ID แล้ว ผู้ซื้อก็ยังไม่สามารถเชื่อมต่อ Apple ID ใหม่ได้ (คือเครื่องนั้นจะไม่สามารถใช้ iTunes in the Cloud ได้) ต้องให้เวลาผ่านไป 90 วันก่อนครับ – Apple Support

Erase All Contents and Settings ผู้ซื้อทำต่อหน้าผู้ขาย ให้มั่นใจว่าได้เครื่องใหม่หมดจด

ที่จริงแล้ว การจะปล่อยให้อุปกรณ์มีข้อมูลส่วนตัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์, รูป, อีเมล ฯลฯ ติดไปด้วยตอนขายเครื่องคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ดังนั้นวิธีล้างให้หมดจดหลังจากตัดการเชื่อมต่อทั้ง 2 อย่างด้านบนเรียบร้อยแล้ว คือการ Erase All Content and Settings โดยเข้าไปที่ Settings -> General -> Reset -> Erase All Content and Settings
*เมื่อ Erase All Contents and Settings เสร็จแล้วสามารถเปิดใช้เครื่องได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ แต่จะสามารถทำได้เฉพาะ iOS 5 ขึ้นไปเท่านั้น