วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เคล็ดลับ 10 ประการสำหรับการปรับปรุงเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks)


 
 
ถ้าอยู่ๆ Windows แจ้งว่าการเชื่อมต่อของคุณมีสัญญาณที่อ่อนมากนั่นแสดงว่าการเชื่อมต่อของคุณนั้นไม่เร็วและไม่น่าเชื่อถือได้เท่าที่ควร และแย่ไปยิ่งกว่านั้นอาจจะทำให้บริเวณบางส่วนของบ้านไม่อาจทำการเชื่อมต่อสัญญาณได้ หากคุณกำลังมองหาวิธีการปรับปรุงสัญญาณเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ของคุณเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวลองเคล็ดลับเหล่านี้ดูนะคะ
1  วาง Router ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
คุณควรย้าย Router มาไว้ในตำแหน่งกลางของบ้านที่ดูแล้วสัญญาณสามารถส่งได้ทุกส่วนของตัวบ้านโดยไร้สิ่งกีด 
 2  ย้าย Router ให้สูงจากพื้นให้ห่างจากผนังและวัตถุโลหะ คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็น โลหะ, ผนังและพื้น จะรบกวนสัญญาณ เครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ของคุณ  ถ้าสิ่งเหล่านั้นอยู่ใกล้ Router ของคุณจะทำให้เกิดคลื่นรบกวนและความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณจะ ลดลง 

 3  เปลี่ยนเสาอากาศให้ Router ของคุณ 
ควรเปลี่ยนเสาอากาศจาก Standard Antenna ซึ่งมีมากับ Router เป็นแบบ Hi-Gain Antenna เพราะ เสาอากาศแบบ Standard antenna มีการออกแบบให้ ส่งคลื่นสัญญาณเป็นแบบ 360 องศาคือกระจายสัญญาณรอบด้านซึ่งสัญญาณที่กระจายไปบางส่วนมันไร้ประโยชน์ จึงควรเปลี่ยนมาเป็นแบบ Hi-Gain Antenna  ซึ่งเป็นสัญญาณไร้สายที่มุ่งเน้นเฉพาะทิศทางสัญญาณทิศทางเดียวก็จะมุ่งไปที่เครื่องของคุณเพียงจุดเดียว

 4  เปลี่ยนอะแดปเตอร์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สายของ สัญญาณเครือข่ายไร้สาย ต้องส่งทั้งไปและกลับจากคอมพิวเตอร์ของคุณ  บางครั้ง Router ของคุณสามารถแค่พอที่จะเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณได้ แต่คอมพิวเตอร์ของคุณไม่สามารถส่งสัญญาณกลับไปที่ Router  ดังนั้นคุณควรเปลี่ยน Card - Based ของอะแดปเตอร์เครือข่ายไร้สาย ของโน๊ตบุ๊คคุณ กับอะแดปเตอร์เครือข่าย USB ที่ใช้เสาอากาศภายนอก  ให้เป็นแบบ Hi-Gain Antennaซึ่งก็คือสัญญาณไร้สายที่มุ่งเน้นเฉพาะหนึ่งทิศทาง 
 5  เพิ่ม อุปกรณ์รับสัญญาณเครือข่ายไร้สาย  
คุณสามารถขยายสัญญาณเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ของคุณได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มสายใดๆเลย โดยเพียงคุณติดตั้ง  อุปกรณ์รับสัญญาณเครือข่ายไร้สาย หรือ Repeaters Wireless เพิ่มระหว่างจุดเชื่อมต่อไร้สายของคุณและคอมพิวเตอร์ของคุณก็จะมีการรับสัญญาณที่ดีขึ้น คุณสามารถตรวจสอบ Repeaters Wireless จากยี่ห้อต่อไปนี้ ViewSonic, D - Link, Linksys, และ Buffalo Technology
 
 6  เปลี่ยนช่องสัญญาณไร้สาย 


Router ไร้สายสามารถออกอากาศในช่องต่างๆหลากหลายคล้ายกับสัญญาณวิทยุโดยเมื่อเราฟังคลื่นนี้ไม่ชัดเราก็แสกนหาใหม่ Router ไร้สายก็เช่นกันคุณสามารถหาช่องทางการเชื่อมต่อสัญญาณที่ชัดเจนได้





 7  ลดสัญญาณรบกวนของการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) 
หากคุณมีโทรศัพท์ไร้สายหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้สายอื่น ๆ ในบ้านของคุณ คอมพิวเตอร์ของคุณอาจจะไม่สามารถ"มองเห็น"สัญญาณจาก Router จนกว่าสัญญาณจากอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆจะหยุดการทำงาน และให้หลีกเลี่ยงอิเล็กทรอนิกส์ไร้สายที่ใช้ความถี่ 2.4GHz
 8  Update Firmware ของเครือข่ายคุณ 
คุณควรหมั่นทำการ Update Firmware ของเครือข่ายคุณ
เป็นประจำ เพราะว่า ผู้ผลิต Router นั้นจะทำการปรับปรุงฟรี Router เป็นประจำ โดยเข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของผู้ผลิต Router ของคุณ  เนื่องจากบางครั้งการ Update สิ่งเหล่านี้ก็มีความจำเป็นมาก เช่นเดียวกับการที่คุณหมั่น Update โปรแกรมสแกนไวรัสนั่นแหละ เพราะการปรับปรุงเหล่านี้มักจะเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ  
 9 เลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ จากผู้ผลิตเดียวกัน 
คุณมักจะได้รับประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้นหากคุณเลือกซื้อ Router และอะแดปเตอร์เครือข่ายจากผู้ผลิตเดียวกัน  

 10  Upgrade อุปกรณ์จาก 802.11b เป็น 802.11g 
มาตรฐาน IEEE 802.11g เป็น มาตรฐานที่นิยมใช้งานกันมากในปัจจุบัน และได้เข้ามาทดแทนมาตรฐาน IEEE 802.11b เนื่องจากมีอัตราความเร็วของการรับส่งข้อมูลที่มากกว่าคืออยู่ในระดับ 54 Mbps โดยใช้ เทคโนโลยีOFDM บนคลื่นสัญญาณวิทยุ ย่านความถี่ 2.4 GHz และให้รัศมีการทำงานที่มากกว่า พร้อมความสามารถในการใช้งานร่วมกันกับมาตรฐาน อย่าง IEEE 802.11b ได้เป็นอย่างดี หากคุณซื้อเครื่องใหม่แน่นอนควรเลือก 802.11g

ว๊าววว แค่นี้การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ของเราก็ลื่นไหลไร้รอยต่อแล้วค่ะ

สายแพรเสาอากาศ WiFi (WiFi Antenna Flex Cable)

เคยพบปัญหาเครื่องเราสัญญาณ WiFi อ่อนมากมั้ยครับ? เคยเจอปัญหาค้นหาสัญญาณ WiFi ไม่เจอบ้างมั้ย ถ้าเคยล่ะก็ บทความต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้ เชิญชมเลยครับ

อ่านสักนิดก่อนเริ่มลงมือทำ

ผู้เขียนแนะนำให้อ่านคู่มือนี้ให้จบ และอ่านซ้ำจนกว่าจะเข้าใจถึงข้อควรระวังในแต่ล่ะขั้นตอน หากไม่แน่ใจให้อ่านซ้ำหรือตั้งคำถาม เพื่อให้เข้าใจ ทั้งนี้ผู้เขียนไม่สามารถรับประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องการความประมาทหรือความไม่รู้ เพราะฉะนั้นหากไม่แน่ใจ หรือไม่มั่นใจ โปรดให้ช่างหรือผู้ที่มีความชำนาญเป็นผู้ซ่อมแซมให้
ผู้เขียนเขียนบทความขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าการซ่อมด้วยตัวเองนั้น ไม่ยากเกินกว่าที่ใครๆ จะทำเองได้ เพียงแต่ต้องอ่านให้รอบคอบและมีความเข้าใจ และรู้ถึงข้อควรระวัง
ผู้เขียนเองก็เริ่มจากผู้ไม่รู้ และได้ศึกษาและทดลองปฎิบัติจนเกิดความชำนาญ และได้นำมาแบ่งปัน

เครื่องมือ

ในส่วนของเครื่องมือสำหรับการถอด/ประกอบ iPhone 4 นี้จะมี 2 ชิ้นที่เพิ่มมาจากการถอด/ประกอบ iPhone 3/3Gs นั่นก็คือไขควงปากแบน และแหนบนั่นเอง
เครื่องสำหรับ iPhone 4, iPhone 4s
เครื่องสำหรับ iPhone 4, iPhone 4s

ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง

ระดับความยาก

สูง

เวลาที่ใช้โดยประมาณ

45 – 60 นาที

คำถามที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนที่ 1

ถอดน็อตออก 2 ตัว
ถอดน็อตออก 2 ตัว
  • ถอดน็อต 3.6 มม. ที่อยู่ติดกับ Dock Connector ออกจำนวน 2 ตัว
ข้อสังเกต
  • ก่อนเริ่มลงทำ ขอให้มั่นใจว่าตัวเครื่องได้ปิดเรียบร้อยแล้ว
  • โปรดสังเกตน็อต 2 ตัวบริเวณ Dock Connector ดังภาพ iPhone 4 ล็อตแรกจะยังคงมีน็อตแบบ 4 แฉก ซึ่งท่านสามารถใช้ไขควงแบบ Philips #00 ได้ตามปกติ สำหรับล็อตหลังๆ จะมีน็อตแบบ 5 แฉก ในกรณี โปรดใช้ไขควงชนิดที่ทำมาโดยเฉพาะ (สั่งซื้อได้ที่นี่)
ไขควง 5 แฉก
ไขควง 5 แฉก

ขั้นตอนที่ 2

เปิดฝาหลัง
เปิดฝาหลัง
เลื่อนฝาหลังขึ้น
เลื่อนฝาหลังขึ้น
  • ดันฝาหลังในทิศทางขึ้นจากด้านล่างสู่ด้านบน
  • ฝาหลังจะถูกเลื่อนออกไปประมาณ 2 มม.

ขั้นตอนที่ 3

แยกฝากหลังออกมา
แยกฝากหลังออกมา
  • แยกฝาหลังออกมาจากตัวเครื่องได้

ขั้นตอนที่ 4

ถอดน็อตออก
ถอดน็อตออก
  • ถอดน็อต 2.5 มม. ที่ยึดตัวเชื่อมต่อของแบตเตอรี่กับ Logic Board

ขั้นตอนที่ 5

ถอดแบตเตอรี่ connector
ถอดแบตเตอรี่ connector
ถอดแบตเตอรี่ connector
ถอดแบตเตอรี่ connector
  • ใช้ตัวงัดพลาสติกงัดตัวเชื่อมแบตเตอรี่ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ให้เริ่มจากปลายด้านที่ใกล้กับด้านบนของ iPhone ก่อน แล้วจึงงัดด้านล่างขอ iPhone ต่อมา
  • หลังจากนั้นจึงนำตัว Chip เชื่อมต่อออกมาได้
ข้อควรระวัง
  • ให้ระวังการงัดให้ดี เนื่องจากคุณอาจสอดตัวงัดพลาสติกลึกเกินไปจนไปงัดถูก Chip ที่ใช้เชื่อต่อได้

ขั้นตอนที่ 6

ถอดแบตเตอรี่
ถอดแบตเตอรี่
ถอดแบตเตอรี่
ถอดแบตเตอรี่
ระวังชิ้นเหล็กเล็กๆ
ระวังชิ้นเหล็กเล็กๆ
  • ดึงแถบพลาสติกใสเพื่อนำแบตเตอรี่ออกมา
  • ระวัง! เมื่อกำลังจะนำแบตเตอรี่ออกมา ในบางกรณี อาจมีกาวที่ใช้ในการยึดแบตเตอรี่ไว้กับตัวเครื่องในปริมาณมาก ดังนั้นอาจทำให้การนำแบตเตอรี่ออกมายากมาก
  • สำหรับแบตเตอรี่ที่ถูกยึดติดไว้แน่นมากๆ ให้ใช้ตัวงัดพลาสติกช่วยพร้อมกับดึงแถบพลาสติก (ใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ตัวงัดช่วยงัด เนื่องจากคุณอาจทำให้อุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ เสียหายได้)
  • จากนั้นจึงนำแบตเตอรี่ออกได้
  • ในการประกอบกลับนั้น ขอให้มั่นใจว่าท่านได้นำชิ้นเหล็กที่ใช้ยึดตัวเชื่อมแบตเตอรี่ เข้าที่ให้ถูกต้อง

ขั้นตอนที่ 7

เอา Sim Card ออก
เอา Sim Card ออก
เอา Sim Card ออก
เอา Sim Card ออก
  • ใช้เครื่องมือดึง Sim Card หรือคลิปหนีบกระดาษ นำ Sim Card พร้อมถาดออกมา

ขั้นตอนที่ 8

ถอด Dock Connector Cable Cover
ถอด Dock Connector Cable Cover
ถอด Dock Connector Cable Cover
ถอด Dock Connector Cable Cover
  • ถอดน็อตออก 2 ตัวดังนี้:
    • 1 x 1.2 มม.
    • 1 x 1.6 มม.
  • ถอดแผ่นเหล็กบางๆ ที่คลุมสายแพรของ Dock Connector ออกจาก iPhone

ขั้นตอนที่ 9

ถอด Dock Connector ออก
ถอด Dock Connector ออก
ถอด Dock Connector ออก
ถอด Dock Connector ออก
  • ใช้เครื่องมืองัดพลาสติกค่อยงัดสายแพร Dock Connector ออกมาจาก Logic Board อย่างระมัดระวัง

ขั้นตอนที่ 10

ลอกสายแพร Dock Connector
ลอกสายแพร Dock Connector
ลอกสายแพร Dock Connector
ลอกสายแพร Dock Connector
  • ค่อยๆ ลอกสายแพร Dock Connector ออกจาก Logic Board และ ฝาปิดลำโพง ดังรูป
  • คำเตือน ถ้าคุณไม่สามารถลอกสายแพรออกไปทางด้านล่างของเครื่องได้ ขอให้หยุดทำทันที เนื่องจากสายแพรอาจจะขาดได้ถ้ามีการใช้แรงมากเกินไป

ขั้นตอนที่ 11

ถอดสายเสาอากาศ
ถอดสายเสาอากาศ
  • ใช้เครื่องมืองัดพลาสติกงัดตัวเชื่อมเสาสัญญาณออกจากช่องเสียบบน Logic Board

ขั้นตอนที่ 12

ถอดน็อต
ถอดน็อต
  • ถอดน็อต 1.9 มม. ที่ใช้ยึดด้านล่างของ Logic Board ออกจากตัวเครื่องด้านใน

ขั้นตอนที่ 13

ถอดเสาอากาศ WiFi
ถอดเสาอากาศ WiFi
  • ถอดน็อต 5 ตัวที่ใช้ยึดเสาสัญญาณ WiFi ออกจาก Logic Board
    • วงกลมสีแดง: 1 x 2.3 มม.
    • วงกลมสีส้ม: 2 x 1.6 มม.
    • วงกลมสีเหลือง: 1 x 1.4 มม.
    • วงกลมสีเขียว: 1 x 4.8 มม.
  • สำหรับการประกอบกลับ ให้เร่ิมใส่น็อต 4.8 มม. ก่อน จากนั้นจึงใส่น็อตขนาด 2.3 มม. เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่น็อตผิดพลาดซึ่งอาจทำให้จอ LCD และ digitizer ใช้การไม่ได้
  • ในการใส่น็อต 4.8 มม. ควรแน่ใจว่าได้ใส่กลับไปอย่างถูกต้อง น็อตตัวนี้เป็น ground สำหรับเสาสัญญาณ WiFi และอาจมีปัญหาได้ ถ้าใส่ไม่ดี

ขั้นตอนที่ 14

ใช้ตัวงัด ถอดแผงรับสัญญาณ
ใช้ตัวงัด ถอดแผงรับสัญญาณ
ใช้ตัวงัด ถอดแผงรับสัญญาณ
ใช้ตัวงัด ถอดแผงรับสัญญาณ
  • ใช้เครื่องมืองัดพลาสติกค่อยๆ ยกส่วนบนของ เสาสัญญาณ WiFi ออกมาจาก Logic Board
  • ใช้ส่วนปลายของเครื่องมืองัด ดึงส่วนที่เกี่ยวกับเฟรมด้านในออก
  • ถอดเสาสัญญาณ WiFi ออกจาก iPhone ได้

ขั้นตอนที่ 15

ถอดสายแพรกล้องหลัง
ถอดสายแพรกล้องหลัง
ถอดสายแพรกล้องหลัง
ถอดสายแพรกล้องหลัง
  • ใช้เครื่องมืองัดพลาสติกยกสายแพรของกล้องหลังออกจาก socket บน Logic Board อย่างระมัดระวัง
  • นำกล้องหลังออกจาก iPhone

ขั้นตอนที่ 16

แกะสติ๊กเกอร์วงกลม
แกะสติ๊กเกอร์วงกลม
ถอดน็อตใต้สติกเกอร์
ถอดน็อตใต้สติกเกอร์
  • จัดการถอดสติกเกอร์วงกลมสีขาวออก (สติกเกอร์รับประกันและตัววัดการโดนน้ำ) ด้านล่างของสติกเกอร์มีน็อตอยู่
  • ถอดน็อต 2.4 มม.ที่อยู่ใต้สติกเกอร์ออก

ขั้นตอนที่ 17

ถอดสายแพรต่างๆ
ถอดสายแพรต่างๆ
  • ถอดตัวเชื่อมสายแพรต่างๆที่อยู่ด้านบนของ Logic Board ออกดังนี้:
    • สีแดง: สาย Digitizer (ถอดจากด้านล่าง)
    • สีส้ม: สาย LCD (ถอดจากด้านล่าง)
    • สีเหลือง: สาย Headphone jack และ สาย Volume Button (ถอดจากด้านบน)
    • สีเขียว: สาย Microphone และ ปุ่ม Sleep (ถอดจากด้านบน)
    • สีฟ้า: สายกล้องหน้า (ถอดจากด้านบน)
  • วิธีการที่ง่ายคือให้ใช้ตัวงัดพลาสติกยกตัวเชื่อมขึ้นจากด้านที่แนะนำ

ขั้นตอนที่ 18

ถอดน็อต
ถอดน็อต
  • ใช้ไขควงปากแบนเพื่อถอดน็อต 4.8 มม. ที่อยู่ใกล้กับตัวเชื่อมของสาย Headphone Jack

ขั้นตอนที่ 19

ถอด Logic Board
ถอด Logic Board
  • ค่อยๆ ถอด Logic Board ออกจาก iPhone อย่างระมัดระวัง ระวังสายแพรต่างๆ ที่อาจมาขวางระหว่างที่นำ Logic Board ออก
  • ในการประกอบกลับ ขอให้มั่นใจว่าคุณได้ตรวจสอบขอบของ Logic Board บริเวณที่มีสายแพรของ Digitizer และ LCD ว่ายางที่ติดอยู่ยังคงอยู่ที่เดิม

ขั้นตอนที่ 20

ถอดน็อต
ถอดน็อต
  • ถอดน็อต 2.4 มม.ที่ใช้ยึดตัวครอบลำโพงกับขอบของเฟรม

ขั้นตอนที่ 21

ถอดตัวครอบลำโพง
ถอดตัวครอบลำโพง
ระวัง เมื่อประกอบกลับ
ระวัง เมื่อประกอบกลับ
  • ถอดฝาครอบลำโพงออกจาก iPhone ได้
  • ในการประกอบกลับ สังเกตให้ดีว่าที่ตัวฝาครอบลำโพงนี้จะมีเหล็กแหลมๆ ที่เรียกว่า EMI อยู่ โปรดตรวจสอบว่าปลายของ EMI จะต้องอยู่ใต้ขอบของ LCD
สนุก, เรียนรู้, และแบ่งปัน